, , ,

       ท้าวเทพกระษัตรีเดิมชื่อจันเกิดเมื่อ พ.ศ. 2278 ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยกรุงศรีอยุธยา  เป็นบุตรคนหัวปีของพระยาถลางจอมร้าง เกิดที่บ้านตะเคียน  มีน้องร่วมบิดามารดา 4 คน น้องหญิงชื่อมุกและชื่อหม่า  น้องชายชื่ออาดและชื่อเรือง   
       พ.ศ. 2297 คุณจันได้แต่งงานกับหม่อมศรีภักดี บุตรของจอมนายกองเมืองตะกั่วทุ่ง ซึ่งเป็นชาวนครศรีธรรมราช  หม่อมศรีภักดีมาอยู่ที่เมืองถลางได้ช่วยราชการจอมร้าง  เนื่องจากบุตรชายจอมร้างอายุยังน้อยทั้ง 2 คน ยังไม่สามารถช่วยงานบ้านเมืองได้  หม่อมศรีภักดีมีบุตรกับคุณจัน 2 คน คนแรกเป็นหญิงชื่อปราง คนที่สองเป็นชายชื่อเทียน  หม่อมศรีภักดีถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2302  คุณจันจึงตกพุ่มหม้าย
       ต่อมาคุณจันได้แต่งงานกับพระยาพิมลขันซึ่งเข้ามาช่วยราชการอยู่ ณ เมืองถลาง   แต่ยังไม่ทันจะมีบุตรด้วยกัน พระยาถลางจอมร้างถึงแก่อนิจกรรมลง  ทำให้เกิดปัญหาเรื่องมรดกเมืองถลางระหว่างพระยาพิมลขันบุตรเขยกับนายอาดบุตรชายของพระยาถลางจอมร้าง  นายอาดนำเรื่องพิพาทไปฟ้องเจ้านครศรีธรรมราช  เจ้านครฯ ตัดสินยกเมืองถลางให้แก่่นายอาดผู้สืบสกุลของพระยาถลางจอมร้าง  ส่วนพระยาพิมลขันนั้นให้ย้ายไปเป็นเจ้าเมืองพัทลุง เพื่อเป็นกำลังสำคัญของเมืองนครศรีฯ  ซึ่งขณะนั้นได้ตั้งตัวเป็นใหญ่ขึ้นในภาคใต้แล้ว เนื่องจากเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาเสื่อมอำนาจลงจนไม่สามารถป้องกันภาคใต้ได้อีกต่อไป 
       คุณจันยังคงมีบทบาทสำคัญในเมืองถลาง  ทำการค้าแร่ดีบุกและมีข้าทาสบริวารจำนวนมาก  ครั้นเมื่อสยามเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า  มีแขกเมืองไทรบุรีกลุ่มหนึ่งคิดกำเริบฆ่าพระยาถลางอาด  แล้วเข้ายึดเมืองถลาง  แต่ชาวเมืองถลางได้รวมกำลังต่อสู้จนขับไล่พวกแขกหนีไปหมด  การต่อสู้คราวนี้มีพระยายกกระบัตรชูเป็นผู้นำออกหน้า  โดยคุณจันเป็นกำลังสนับสนุนที่สำคัญ

       พ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบนครศรีธรรมราชลงได้  พระยาพิมลขันซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าเมืองพัทลุง หนีไปกับเจ้านครศรีธรรมราช  ทั้งสองถูกจับได้  จึงถูกส่งตัวไปยังกรุงธนบุรีด้วยกัน  แล้วได้ทำราชการต่อมา โดยที่ไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด
      ระหว่าง พ.ศ. 2314 – 2315 กัปตัน “ฟรานซิส  ไล้ท์” พ่อค้าชาวอังกฤษ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ  ให้ตั้งสำนักงานซื้อแร่ดีบุกแบบผูกขาดขึ้นที่บ้านท่าเรือ เมืองถลาง  และพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระยาราชกปิตัน  จากนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ โปรดให้ พระยาพิมลขันออกมากำกับดูแลค้าแร่ดีบุกกับชาวต่างประเทศ  เนื่องจากเคยอยู่เมืองถลาง เข้าใจการค้าแร่ดีบุก เป็นอย่างดี   พระยาพิมลขันจึงได้กลับมาเมืองถลาง  ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองถลางใน พ.ศ. 2319  เข้าใจว่าการเรียกชื่อเป็นคุณหญิงคงเริ่มต้นในช่วงนี้ตามบรรดาศักดิ์ของสามีซึ่งเป็นพระยาตำแหน่งเจ้าเมือง  คุณหญิงจันมีบุตรกับพระยาพิมลขัน 5 คน หญิงชื่อทอง ชายชื่อจุ้ย กับชื่อเนียม และบุตรหญิงอีก 2 คน ชื่อกิ่ม กับชื่อเมือง
       ฝ่ายคุณหญิงจันที่ประกอบการค้าแร่ดีบุกมีคุณเทียนบุตรชายเป็นกำลังสำคัญ  คุณเทียนได้ค้นพบแหล่งแร่ขนาดใหญ่มากในพื้นที่บ้านสะปำซึ่งอยู่ในเขตเมืองภูเก็ต  ถือเป็นความดีความชอบใหญ่หลวงเพราะการทำแร่สร้างรายได้มหาศาลแก่แผ่นดินช่วยฟื้นฟูความบอบช้ำจากสงคราม  คุณเทียนจึงได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตซึ่งขึ้นกับเมืองถลาง
       พ.ศ. 2328  มีจดหมายออกนาม “ท่านผู้หญิงจัน” ถึงพระยาราชกปิตัน ว่าพระยาถลางป่วย และได้ข่าวพม่าจะมาตีถลาง จึงขอผัดผ่อนหนี้สินและกรุยทางที่จะพึ่งพากัปตันไลท์หากเกิดสงคราม แสดงว่าก่อนเกิดศึกถลางเรียกขานกันว่าท่านผู้หญิงอยู่แล้ว  และพระยาถลางที่ป่วยก็คือพระยาพิมลขัน ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมหลังจดหมายดังกล่าวไม่นานนัก  ส่วนจดหมายฉบับหลังถึงพระยาราชกปิตันใน พ.ศ. 2329 เล่าความเรื่องศึกพม่าว่า “อนึ่งเมื่อพม่ายกมานั้น พระยาธรรมไตรโลกให้เกาะเอาตัวตูข้าลงไปไว้ที่ปากพระ  ครั้นพม่ายกมาตีปากพระได้  กลับแล่นขึ้นมา ณ บ้าน แลคนซึ่งให้รักษาบ้านเรือนอยู่นั้นแล่นทุ่มบ้านเรือนเสีย  ข้าวของทั้งปวงเป็นอันตราย มีคนเก็บริบเอาไปสิ้น…”   ท่านผู้หญิงจันจะถูกเอาตัวไปปากพระด้วยเหตุใดก็ตาม แต่เมื่อกลับมาเห็นสภาพบ้านเมืองยามสงคราม ทั้งเจ้าเมืองก็ยังไม่มี  ฝ่ายพม่าก็ตั้งค่ายล้อมเมืองถลางอยู่หลายค่าย  จึงคิดอ่านกับน้องสาวและกรมการทั้งปวงซึ่งมีพระยาทุกรราชทองพูนรวมอยู่ด้วย รวบรวมผู้คนหญิงชายตั้งค่ายป้องกันเมือง  ระดมยิงปืนต่อสู้กับพม่าทุกวัน สู้รบกันอยู่เดือนเศษในที่สุดพม่าก็แตกพ่ายไป
       เมื่อความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งท่านผู้หญิงจันเป็น “ท้าวเทพกษัตรี” และคุณมุกน้องสาวเป็น “ท้าวศรีสุนทร”  ตั้งพระยาทุกรราชทองพูนเป็นเจ้าเมืองถลางคนใหม่ และตั้งคุณเทียนเป็น “พระยาทุกรราช”  แทน  คุณเทียนผู้นี้ได้เป็นเจ้าเมืองถลางในเวลาต่อม
       วีรกรรมที่แสดงถึงความกล้าหาญของท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทรเป็นที่เล่าขานต่อ ๆ กันมาจนถึงชาวภูเก็ตในปัจจุบัน  จึงได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์ไว้ที่สี่แยกท่าเรือ อำเภอถลาง  โดยทำพิธียกอนุสาวรีย์ขึ้นประดิษฐานบนแท่นในวันที่ 24 มีนาคม 2510  ซึ่งตรงกับวันถลางชนะศึกเมื่อ พ.ศ. 2328  ต่อมมาได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำพิธีเปิดในวันที่ 23 พฤษภาคม 2510

, , ,
0 0 votes
Article Rating
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x